งานมีปริมาณมากเกินกว่าที่จะจัดการได้ภายในเวลาที่กำหนด
งานล้นมือไม่ได้หมายถึงการขี้เกียจหรือจัดการเวลาไม่ดีเสมอไป แต่ในบางบริบท งานที่ได้รับอาจมีปริมาณมากเกินกว่าที่ “มนุษย์หนึ่งคน” จะจัดการได้ภายในเวลาที่กำหนดจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อแต่ละงานมีความสำคัญ มีรายละเอียด และต้องการความรอบคอบ
เมื่อปริมาณงานมากกว่าทรัพยากรที่มี ย่อมเกิดแรงกดดันเสมอ
สัญญาณที่บอกว่าเรากำลังเผชิญกับ “งานเกินมือ” ได้แก่:
- รู้สึกเหมือนทำงานทั้งวันแต่ไม่มีอะไรเสร็จ
- ต้องรีบทำทุกอย่างจนไม่มีเวลาคิดหรือตรวจสอบ
- ไม่สามารถวางแผนล่วงหน้า เพราะแค่เอาตัวรอดในแต่ละวันก็เต็มที่แล้ว
- ต้องทำงานเกินเวลาเป็นประจำ หรือรู้สึกผิดหากหยุดพัก
ความล้นของงาน อาจค่อยๆ ล้นมาถึงสุขภาพใจ
หากสถานการณ์นี้ยืดเยื้อ อาจนำไปสู่ผลกระทบที่ใหญ่กว่าตัวงาน เช่น:
- ความเครียดสะสม และเหนื่อยล้าเรื้อรัง (Burnout)
- ขาดความมั่นใจในตนเอง เพราะไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามที่คาดหวัง
- ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าเริ่มตึงเครียด
- คุณภาพงานลดลง เพราะต้องทำทุกอย่างแบบเร่งด่วน
แนวทางรับมือ: กลับมาวางกรอบ คัด เลือก และสื่อสารอย่างเป็นระบบ
เมื่องานมากเกินไป เราอาจเริ่มจัดการได้จากสิ่งเหล่านี้:
- คัดแยกงาน: แบ่งงานออกเป็น “สำคัญ-เร่งด่วน” และ “สำคัญแต่ไม่เร่ง” เพื่อจัดลำดับความสำคัญก่อน
- กำหนดขอบเขต: ตั้งกรอบเวลาให้กับแต่ละงานอย่างสมจริง เพื่อลดความรู้สึกว่า “ต้องทำทุกอย่างตอนนี้”
- สื่อสาร: แจ้งหัวหน้าเมื่อปริมาณงานเกินขอบเขตที่จัดการได้ พร้อมเสนอแนวทาง เช่น ขอเลื่อนงานบางส่วน หรือขอทรัพยากรเพิ่ม
- เว้นช่องว่าง: จัดช่วงพักเล็กๆ เพื่อให้สมองได้ฟื้นตัว ช่วยให้ตัดสินใจดีขึ้น
การบริหารงานที่มากเกินไปไม่ใช่เรื่องของความอึดล้วนๆ แต่คือการรู้จัก “จัดการพลัง” และ “เลือกสิ่งที่จำเป็นที่สุด” อย่างมีสติ
คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง เพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง
คุณค่าของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนงานที่คุณทำได้ในหนึ่งวัน แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสิ่งที่คุณใส่ใจ และความกล้าที่จะดูแลตัวเองท่ามกลางความคาดหวัง
หากคุณกำลังรู้สึกว่า งานล้นจนแทบหายใจไม่ทัน ลองหยุดหนึ่งนาทีเพื่อถามตัวเองว่า “อะไรสำคัญที่สุดในตอนนี้” แล้วค่อยๆ เดินต่อไปด้วยจังหวะที่คุณพอดีกับตัวเอง